ดูเหมือนว่าโลกของเราไม่ได้อยู่ในปีที่สงบสุขเท่าไหร่ แม้ว่าโลกจะทำให้เรายากในการหาเวลาผ่อนคลาย แต่การนอนยาวๆ 8 ชั่วโมงนั้นถือว่ายังไม่เพียงพอ เชื่อเถอะว่าต้องมีหมออย่างน้อยสักหนึ่งคนที่ยืนยันว่า เราทุกคนจำเป็นต้องหาทางรีเซ็ตตัวเองและเติมพลังอยู่ดี

ซึ่งนั่นใครบางคนอาจจะคิดไปว่ามันคงยุ่งยากกว่าการปิดสวิตซ์สมองและเปิด Netflix ดูไปเรื่อยๆ

ในโพสต์หนึ่งของ TED Ideas
ซอนด้า ดัลตัน-สมิธ บอกว่า “เราใช้ชีวิตโดยคิดว่าเราได้พักผ่อนแล้ว เพราะเรานอนหลับเพียงพอ แต่ในความเป็นจริง เราพลาดการพักผ่อนประเภทอื่นๆ ที่เราต้องการอย่างยิ่งไป” และได้สรุปมาให้ว่ามี การพักผ่อน 7 ประเภทที่จำเป็นสำหรับความกระปรี้กระเปร่าของมนุษย์

การพักผ่อนทางกาย (Physical Rest)

นี่เป็นคำจำกัดความปกติเลยของการพักผ่อนที่เราทุกคนคุ้นเคย แต่ในขณะที่เรารู้ ว่าเราต้องใช้เวลาพอสมควรอยู่บนเตียงเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ก็ได้มีผลการศึกษาผลวิจัยเผยออกมาอย่างต่อเนื่องว่าพวกเราส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อนทางกายไม่เพียงพอ

การพักผ่อนทางใจ (Mental Rest)

มีความคิดที่มันวนเวียนอยู่ในหัวตลอดเวลาตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงตอนที่คุณหลับไป(ในที่สุด)ใช่หรือเปล่า? คุณต้องการพักผ่อนทางจิตใจให้มากขึ้น ถึงแม้ว่าคุณจะนอนหลับเต็มอิ่มแปดชั่วโมงต่อคืน คุณจะไม่รู้สึกได้ชาร์จพลังอย่างเต็มที่จนกว่าคุณจะเข้าใจสิ่งที่อยู่ในหัว

“ข่าวดีก็คือว่า คุณไม่จำเป็นต้องลาออกจากงานหรือไปเที่ยวพักผ่อนเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ให้ลองกำหนดเวลาพักเบรคสั้น ๆ ทุก ๆ สองชั่วโมงตลอดวันทำงานของคุณ การพักเหล่านี้สามารถเตือนให้คุณใจเย็น หรือคุณยังอาจวางสมุดโน้ตไว้ใกล้ๆเตียงเพื่อจดความคิดที่ว้าวุ่นที่มันทำให้คุณตื่น” ดัลตัน-สมิธแนะ

การพักผ่อนทางประสาทสัมผัส (Sensory Rest)

การจ้องหน้าจอทั้งวันทั้งคืนนั่นหมายความว่าดวงตาของคุณแทบไม่ได้พักผ่อนอย่างเหมาะสมเลย แต่ว่านี่ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่พวกเราหลายคนไม่เคยหยุดพัก เมืองที่มีเสียงดังจอแจ การแจ้งเตือนแบบ Notifications และเสียงเพลงที่ส่งเสียงดังล้วนมีส่วนทำให้เกิดการกระตุ้นทางประสาทสัมผัสอย่างต่อเนื่อง สมองของคุณต้องการการพักผ่อนครั้งแล้วครั้งเล่า หลับตาอย่างมีสติและมอบของขวัญเป็นความเงียบให้กับตัวเองในช่วงเวลาสั้นๆระหว่างวัน

การพักผ่อนที่สร้างสรรค์ (Creative Rest)

มีเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ตมากมายที่เต็มไปด้วยเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีจุดประกายความสร้างสรรค์ แต่สิ่งที่สำคัญพอๆ กับการพยายามนำเสนอไอเดียใหม่ๆ ก็คือการไม่ลืมที่จะหยุดชั่วคราวและสร้างมันขึ้นมา อย่างเช่น งานศิลปะ การสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน

การพักผ่อนทางอารมณ์ (Emotional Rest)

“หมายถึงการมีเวลาและพื้นที่ในการแสดงความรู้สึกของคุณอย่างอิสระและการไม่ต้องทำให้ทุกคนพอใจ”
Dalton-Smith อธิบาย “การพักผ่อนทางอารมณ์ยังต้องการความกล้าหาญเพื่อให้มันเป็นจริง คนที่ผ่อนคลายทางอารมณ์แล้วจะสามารถตอบคำถาม ‘วันนี้คุณเป็นอย่างไร’ แบบตรงๆได้ว่า ‘ฉันไม่โอเค‘ แล้วค่อยระบายเรื่องอึดอัดบางอย่างที่ไม่ได้พูดออกมา”

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือเราทุกคนต้องการพื้นที่เพื่อหยุดแสร้งทำเพื่อตนเองและผู้อื่นและรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเราบ้างในบางครั้ง

การพักผ่อนทางสังคม (Social Rest)

บางคนเติมพลังให้คุณ บางคนดูดพลังคุณ
ถ้าคุณใช้เวลามากเกินไปกับคนประเภทหลัง คุณก็อาจจะต้องการพักผ่อนทางอารมณ์บ้าง

การพักผ่อนทางจิตวิญญาณ (Spiritual Rest)

มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะมีความเกี่ยวพันทางศาสนาหรือไม่ก็ตาม
ล้วนมีความต้องการรู้สึกเชื่อมโยงกับบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวพวกเขาเอง
ซึ่งบางครั้งมันก็ไม่ง่ายเลยที่จะยึดเหนี่ยวเอาไว้ท่ามกลางเรื่องราวจุกจิกในชีวิตประจำวัน
ข่าวดีก็คือวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่าการนึกถึงสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ จะทำให้คุณรู้สึกมีพลังขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ซึ่งจะนำไปสู่การมีชีวิตที่ดีได้

ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณคิดกับตัวเองว่า “ฉันเหนื่อย” อย่าปล่อยให้ตัวเองถึงจุดที่ต้องบ่นถึงเรื่องนั้น
ให้ลองขุดลึกลงไปอีกสักนิดและพยายามดูว่าคุณขาดการพักผ่อนประเภทใด เมื่อคุณรู้ว่าคุณพลาดอะไรไป
คุณจะได้อยู่ในจุดที่ดีขึ้นในการหาวิธีชาร์จพลังอย่างมีประสิทธิภาพ