นี่เป็นเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับความแปลกประหลาดและความรู้สึกเสียวซ่านหรือจั๊กจี้ที่อาจช่วยให้คุณผ่อนคลายได้
มีคนนับล้านที่เคยดูวิดีโอที่ผู้หญิงกำลังกระซิบอยู่หน้ากล้อง เธอไม่ได้ทำอะไรน่าสนใจหรอก เธอก็แค่พูดเป็นทำนองกระซิบ และก็มีการเคลื่อนไหวมือนิดๆหน่อยๆ แต่ทว่าคนเป็นล้านกลับหลงใหลมัน…
สำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัสกับปรากฏการณ์แบบนี้ก็อาจจะเกิดคำถามว่า.. “เค้าทำอะไรวะ?”
นี่คือโลกของ ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response)
ด้านหนึ่งในอินเทอร์เน็ต เหล่านักทำวิดีโอ ได้ทำการบันทึกตัวเองที่กำลังทำอะไรบางอย่างง่ายๆคล้ายๆกับการกระซิบ เพื่ออธิบายบทละคร Sci-Fi บ้าง พัฒนาเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาบ้าง เกี่ยวกับปีศาจบ้าง และคนดูหลายล้านคนก็อินไปกับมัน
ASMR คืออะไร?
ASMR เป็นคำที่ใช้เรียกความรู้สึกที่ผู้คนได้รับเมื่อพวกเขาดูวิดีโอที่กระตุ้นอารมณ์หรือมีส่วนร่วมในกิจกรรม ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับความสนใจส่วนตัว หลายๆคนได้อธิบายความรู้สึกว่า “รู้สึกเสียวซ่าน” ได้ไหลผ่านหลังศีรษะและกระดูกสันหลัง บางคนก็บอกว่าความรู้สึกนั้นเหมือนกับได้ผ่อนคลายอย่างล้ำลึก และอาจถึงกับทำให้พวกเขาผล็อยหลับไปเลยทีเดียว
ถึงแม้คำว่า ASMR ฟังแล้วอาจจะดูเหมือนเป็นศัพท์เทคนิคไปสักหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้มีงานวิจัยดีๆที่อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์นี้ มีการเชื่อกันว่าคำนี้ได้ถูกนับขึ้นตั้งแต่ปี 2010 โดยเจนนิเฟอร์ อัลเลน ผู้ที่เป็นคนก่อตั้ง กลุ่ม facebook ขึ้นมาเพื่อค้นหาข้อมูลเพิ่ม
คำนี้เริ่มใช้กันมากขึ้น เมื่อผู้คนรู้วิธีในการอ้างถึงความพึงพอใจที่พวกเขาได้รับ
เดี๋ยวก่อนนะ แล้ว ASMR มันได้ผลยังไง?
การที่ ASMR ได้ผลนั้นหลากหลายมาก ต่างกันไปในแต่ละคน บางคนก็ได้ผล ส่วนใหญ่ได้ผล หรือไม่เข้าใจเลยก็มี ในทางวิทยาศาสตร์ ASMR โดยพื้นฐานนั้นไม่มีอยู่จริง ดังนั้น ความเข้าใจของพวกเราเกี่ยวกับมันก็คงยังห่างไกลขึ้นอยู่กับเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่อยู่ตามอินเทอร์เน็ต
ผู้คนได้ความรู้สึกของ ASMR ตามตัวกระตุ้นที่หลากหลาย บางคนสนุกกับการเล่นตามบทบาทสมมติ ที่ใครบางคนให้ความใส่ใจในเรื่องส่วนตัวและกระซิบแบบใกล้ชิด ในขณะที่บางคนชอบวิดีโอที่แสดงเกี่ยวกับเรื่องทางโลกทั่วไป เช่น การฉีดพ่นขวดน้ำ, การกดปุ่ม, การคนน้ำซุป, หรือการขยำกระดาษ คนอื่นๆอาจชอบการถูกกระตุ้นโดยการเล่นบทบาทสมติ ซึ่งอาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่คนที่ทำตัวเป็นหมอ ไปจนถึง การไปร้านตัดผม
ความรู้สึกมักไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ แม้ว่าบางคนจะถูกกระตุ้นโดยวิดีโอที่เกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่คนอื่นๆ ที่ซึ่งมีประสบการณ์ ASMR นั้นเน้นย้ำว่าความรู้สึกเสียวซ่านและความรู้สึกผ่อนคลายนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ แต่ ASMR มีความคล้ายคลึงกับความต้องการทางเพศเล็กน้อย ตรงที่บางคนเจาะจงในสิ่งที่พวกเขาชอบ และหลายคนมักจะเบื่อกับประสบการณ์เดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มาเรีย ผู้ดูแลช่อง Gentle Whispering ซึ่งมีสมาชิกมากกว่าล้านคนบน YouTube เคยกล่าวว่าประสบการณ์ของผู้คนอาจแตกต่างกันไปในแต่ละวันหรือขึ้นอยู่กับอารมณ์ของพวกเขา “ฉันสังเกตว่าวันหนึ่งคุณจะอ่อนไหวต่อการแสดงบทบาทสมมติมากขึ้น จากนั้นอีกวันหนึ่งคุณจะอ่อนไหวต่อเสียงหวด” เธอกล่าว “มันแตกต่างกันจริงๆ”
และผู้คนก็ดูเหมือนจะอดทนต่อสิ่งกระตุ้นหากพวกเขาฟังหรือดูมากเกินไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ผลิตวิดีโอ ASMR ที่จะต้องรักษาความสดใหม่ และสำหรับผู้ดูต้องแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่เล่นวิดีโอมากจนเกินไป
บางคนพยายามเติมช่องว่างในทางวิทยาศาสตร์ อย่าง อัลเลน และนักวิจัยอีกสองคนได้ร่วมกันทำแบบสำรวจออนไลน์ที่พวกเขาหวังว่าจะได้คำตอบว่าทำไมคนบางคนถึงได้รับ ASMR และคนอื่นๆถึงไม่ได้รับ การศึกษาในปี 2015 ที่ตีพิมพ์ใน PeerJ ได้ศึกษา ASMR และแนะนำว่ามันสามารถปรับปรุงอารมณ์ได้แม้กระทั่งอาการเจ็บปวดได้ผ่านตัวกระตุ้นทั่วไปที่หลากหลาย รวมไปถึงการกระซิบ การให้ความใส่ใจในส่วนตัว เสียงที่คมชัด และการเคลื่อนไหวเนิบช้า แต่ก็ยังไม่มีงานวิทยาศาสตร์ที่ยอดเยี่ยมที่อธิบายเกี่ยวกับ ASMR
คนจะทราบได้อย่างไรว่าพวกเขามี ASMR?
เรื่องราวของการค้นพบ ASMR ของ Maria ก็ดูเหมือนจะสะท้อนประสบการณ์ทั่วๆไป คือครั้งแรกที่เธอมีความรู้สึกเมื่อตอนเด็กขณะปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และต่อมาก็ได้ค้นพบชุมชนอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ที่อุทิศให้กับความรู้สึกแปลก ๆ
“ปฏิกิริยาแรกที่ฉันมีคือการสัมผัสทางร่างกายในโรงเรียนอนุบาล เมื่อมีเด็กผู้หญิงเอานิ้วมาจิ้มที่ปลายแขนของฉัน” มาเรียว่า “มันไม่ใช่ความรู้สึกที่พวกเขาสัมผัสผิวของฉันมากเท่ากับที่พวกเขาให้ความสนใจกับฉัน”
ต่อมา มาเรียจะรู้สึกเสียวซ่านมากขึ้นจากการเล่นบทบาทสมมติกับเพื่อนของเธอเมื่อพวกเขาทำหน้าที่เป็นคุณหมอหรือคุณครู
“มันทำให้ฉันอยู่ในสภาพที่เหมือนมึนงง” มาเรียกล่าว “ความรู้สึกมันล้นหลามมากจนฉันคิดว่าฉันจะจดจำมันได้ตลอดไป”
มาเรียจะรู้สึกแบบนี้ต่อไปตลอดชีวิตของเธอ แต่เธอไม่เคยรู้เลยจริงๆ ว่ามันคืออะไร เมื่อเธอพยายามอธิบายความรู้สึกนี้ให้เพื่อนและครอบครัวฟัง พวกเขาแสดงปฏิกิริยาราวกับว่าเธอเป็น “ตัวประหลาด”
และในปี 2009 เธอก็ค้นพบกับวิดีโอที่กระตุ้น ASMR ของเธอ
“ฉันจะเริ่มดูวิดีโอตอนที่ฉันกำลังเผชิญกับความยากลำบากในชีวิต และตอนที่มีภาวะซึมเศร้าเล็กน้อย” มาเรียว่า “ฉันจะดูวิดีโอเพื่อการผ่อนคลายและวิดีโอบำบัด เช่น วิดีโอการทำสมาธิและการนวด และวันหนึ่งฉันก็ได้เห็นวิดีโอกระซิบ และฉันก็คลิกเข้าไป ณ ตอนนั้น เมื่อฉันได้ยินเสียงของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็เกิดรู้สึกเสียวซ่าน
เธอเสริมว่า “มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับฉัน”
ย้อนกลับไปในปี 2009 ไม่มีคำศัพท์ที่รู้จักกันดีสำหรับ ASMR แต่เมื่อมาเรียได้ค้นหาวิดีโอมากขึ้นในช่วงสองสามเดือนต่อมา เธอกลับเริ่มเห็นคำนั้นในความคิดเห็นของ YouTube มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอเริ่มพัฒนาวิดีโอของเธอ ชุมชนและคำศัพท์ที่เกี่ยวกับความรู้สึกแปลกๆ ที่พวกเขาได้รับนั้นก็ค่อนข้างเป็นที่ยอมรับ
ตัวอย่างวิดีโอ ASMR มีอะไรบ้าง?
มีวิดีโอหลายพันรายการที่ทุ่มเทให้กับ ASMR และก็มีบางธีมที่สอดคล้องกัน
สำหรับผู้ผลิตวิดีโอบางราย วิดีโอ ASMR เป็นช่องทางที่สร้างสรรค์ มาเรียอธิบายว่ามันเป็นศิลปะ — และผู้ผลิตวิดีโอรายอื่นๆ หลายคนอธิบายตัวเองว่าเป็นศิลปิน ASMR (หรือ “ASMRtist” สั้นๆ) “ฉันมีความคิดสร้างสรรค์อยู่เสมอ และได้รับแรงบันดาลใจจากการดู [วิดีโอ]” เธอกล่าว “ฉันจึงเริ่มสร้างวิดีโอของตัวเอง”
เป้าหมายใหญ่ประการหนึ่งสำหรับผู้ผลิตวิดีโอคือการหาสิ่งกระตุ้น (triggers) ใหม่ๆ — ส่วนใหญ่ก็เพื่อให้สิ่งมีใหม่ๆ อยู่เสมอ “เมื่อใดก็ตามที่มีตัวกระตุ้นใหม่ปรากฏขึ้น ผู้คนก็จะคลั่งไคล้มัน” มาเรียกล่าว “เรายังต้องทำให้มันหลากหลาย ไม่เช่นนั้นเราจะดูจืดชืดและน่าเบื่อไปเลย”
การทำวิดีโอเหล่านี้อาจใช้เวลานาน มาเรียกล่าวว่าเธอพิจารณาองค์ประกอบทุกประเภท รวมถึงสิ่งที่เธอจะสวมใส่ สิ่งของที่เธอจะใช้ เธอและสิ่งของต่างๆ ควรอยู่ห่างจากไมโครโฟนและกล้องเท่าใด และแม้แต่พื้นหลังควรมีลักษณะอย่างไร จากนั้นเธอก็ทดสอบเสียงและมุมต่างๆ เป็นเวลาสองสามวัน และจบวิดีโอด้วยการบันทึกวิดีโอเป็นเวลาสี่ถึงห้าชั่วโมง ในทุกย่างก้าว แนวคิดคือการทำให้อารมณ์ของวิดีโอแต่ละรายการสมบูรณ์แบบเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำให้เกิดความรู้สึกเสียวซ่านและผ่อนคลาย
ASMR ใหญ่แค่ไหน?
มันก็แฟร์ที่จะบอกว่า ASMR ตอนนี้ค่อนข้างใหญ่ มีวิดีโอหลายร้อยรายการที่มีการดูมากกว่าหนึ่งล้านครั้ง และช่องหลายช่องที่มีผู้ติดตามหลายแสนคน The New York Times, Washington Post และ BuzzFeed ได้ก็มีกล่าวถึงเรื่องนี้ ยังมีวิดีโอ ASMR ที่ดี และที่ตลกอีกมาก
ความสำเร็จบางส่วนนี้สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ผลิตวิดีโอ “ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะมีอิทธิพลต่อความเป็นอยู่ที่ดีของใครบางคนมากนัก” มาเรียว่า
แล้วเหตุใดคนถึงดูวิดีโอ ASMR กัน?
แล้วทำไมผู้คนถึงทำอะไรต่อมิอะไรบนอินเทอร์เน็ตล่ะ? บางคนดูวิดีโอแมวเหมียว บางคนดูนักการเมืองด่ากัน บางคนดูการแสดงตลก – และบางครั้งก็ดูข่าว และบางคนดูวิดีโอของใครบางคนที่กำลังกระซิบเพื่อผ่อนคลาย
ส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเทอร์เน็ต: ความสามารถในการนำผู้คนมารวมกันในแบบที่เป็นไปไม่ได้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นปรากฏการณ์อีกประการหนึ่งที่ควรค่าแก่การชี้ให้เห็น อินเทอร์เน็ตช่วยให้ประสบการณ์ส่วนตัวและประสบการณ์ที่ซ่อนอยู่ก่อนหน้านี้สามารถรับรู้ได้ทั่วไป การสื่อสารของมนุษย์เพิ่มขึ้นจนถึงจุดที่ผู้ที่มีสิ่งที่พวกเขาคิดว่าเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ไม่เหมือนใครสามารถมาพบกันได้ ในที่สุดก็นำปรากฏการณ์นี้ไปสู่การรับรู้ทั่วไป ตั้งชื่อและสร้างรอยเท้าทางอินเทอร์เน็ตให้กับมัน
เป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าผู้คนหลายล้านที่เคยประสบกับ ASMR และมีความรู้สึกเสียวซ่านในช่วงก่อนยุคอินเทอร์เน็ตกำลังหลงทางว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเป็นเรื่องแปลกหรือไม่ เช่นเดียวกับมาเรีย พวกเขาอาจพยายามเก็บเป็นความลับหลังจากเห็นเพื่อนและครอบครัวแสดงปฏิกิริยาด้วยความสับสนขณะพยายามอธิบายความรู้สึก มีเพียงอินเทอร์เน็ตเท่านั้นที่ผู้คนสามารถสะดุดเข้าหากันและรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาไม่ได้อยู่คนเดียวในการประสบกับความรู้สึกแปลก ๆ นี้
อนาคตของ ASMR คืออะไร?
เนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่ประสบกับ ASMR จึงมีแนวโน้มว่าจะยังคงเป็นช่องทางเฉพาะสำหรับกลุ่มของผู้คนบนอินเทอร์เน็ต
แต่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีบางอย่างที่สามารถพัฒนา ASMR ได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Virtual Reality หรือ VR มีผู้สร้างวิดีโอและผู้ดู ASMR จำนวนมากที่ตื่นเต้น เพราะมันสามารถนำระดับใหม่มาสู่ประสบการณ์อันดื่มด่ำ
“ยิ่งเราขยายขอบเขตมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น” มาเรียกล่าวว่า “เรากำลังพยายามให้ความบันเทิงแก่ผู้คนให้มากที่สุด และให้ทางเลือกแก่พวกเขา” เธอเสริมอีกว่า “เราได้รับคำติชมจากนักดับเพลิง ทหาร นักบิน ทนายความ แม่เลี้ยงเดี่ยว และวัยรุ่นที่คิดฆ่าตัวตายที่เพิ่งดูวิดีโอเหล่านี้ และมันเปลี่ยนทัศนคติและอารมณ์ของพวกเขาเพียงไม่กี่นาที เป็นความรู้สึกที่วิเศษมากที่ได้ยินใครบอกคุณแบบนั้น”