บทความนี้เขียนขึ้นมาเพื่อตอบข้อสงสัยของตัวเอง เนื่องจากไปเจอโพสหนึ่งบนโซเชียลมีเดียความว่า People who have a high spiritual intelligence don't just read word. They read mood, they read energy, they read vibes and body language. Their sense are supreme. They might not say much, but they notice everything. มาทำความเข้าใจมันให้มากขึ้น มากกว่านี้…
Mental Health
หนังสือเล่มนี้เขียนโดย ชาฮิดา อาราบี เป็นแหล่งข้อมูลที่ช่วยบุคคลที่มีความอ่อนไหวสูงในการจัดการความสัมพันธ์กับคนที่เป็นพิษในชีวิต อาราบีใช้ความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับความอ่อนไหว ความฉลาดทางอารมณ์ และจิตวิทยา เพื่อให้แนวคิดและแนวทางเชิงปฏิบัติที่เอาไปใช้ได้จริง และนี้คือบทเรียนและข้อคิดสำคัญ 10 ข้อจากหนังสือ…
ถ้าคุณชอบหนังเรื่อง ‘Elemental’ ของ Disney Pixar และอยากเจาะลงไปในรายละเอียดอีกสักหน่อย โพสต์นี้น่าจะมีประโยชน์ เพราะเราจะพูดถึงบทเรียนชีวิตที่ได้จากอนิเมชั่นเรื่องนี้ (: Elemental เป็นเรื่องราวสดใสมีชีวิตชีวาชวนให้เราเข้าไปสู่โลกที่ชาวธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อาศัยอยู่ในเมืองอันพลุกพล่านชื่อว่า Element City หนังได้บอกเล่าเรื่องราวอันน่าหลงใหลของสาวธาตุไฟ เอ็มเบอร์ และ เวด หนุ่มมนุษย์น้ำผู้ที่ซึ่งค้นพบว่าความแตกต่างสามารถทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นเราชอบการผสมกันระหว่างความตลก อารมณ์ซึ้งๆ และภาพที่น่าทึ่งนะ แต่อย่างที่หลายๆคนหวังจากการ์ตูนของ Pixar เรื่องนี้ให้บทเรียนดีๆกับคนดูอย่างเราเช่นกัน ใน Elemental ได้ให้ข้อคิดอันมีค่าเกี่ยวกับการเป็นที่ยอมรับ ความรัก การทำตามความฝัน และพลังแห่งการสื่อสาร…
การเปิดใจเกี่ยวกับความรู้สึกอาจเป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจและจัดการกับอารมณ์ของคุณ แต่การ "เปิดเผยทั้งหมด" ออกไปอาจไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเสมอ…
เมื่อตอนยังเด็ก เราอาจจะไม่ทันสังเกตถึงความลื่นไหลที่เราสามารถเรียกชื่อนักแสดง ร้านอาหาร หรือครูประจำชั้นได้อย่างทันที แต่เมื่ออายุมากขึ้น สมองอาจไม่คล่องแคล่วว่องไวเหมือนแต่ก่อนนัก…
การคิดบวกไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง อันตรายของ “good vibes only” อาจทำให้เรามองไม่เห็นว่าปัญหาอยู่ที่ไหน…
คุณจะเลือกวนเวียนอยู่กับความคิด หรือหยุดวนลูปนี้แล้วลงมือทำอะไรซักอย่าง ทำอะไรบางอย่าง ทำอะไรก็ได้ ทำสิ่งเล็กๆทีละนิด เพื่อให้จิตใจคุณได้หยุดพักจากวังวนบ้าง การคิดมากก็แค่เป็นตัวย้ำเตือนความเจ็บปวด ที่คุณแคร์บางสิ่งมากไป หรือกระทั่งไม่ได้สนใจมันเลย…
การที่คนเราทำอะไรไม่สำเร็จสักอย่าง ในมุมของการผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ว่าจะงานใหญ่ หรือ Task งานเล็กๆ หากพูดถึงในแง่ของงานใหญ่อันที่จริงใครอาจจะปฏิเสธว่าฉันทำมันแล้ว ลงมือทำบางอย่างไปหลายต่อหลายครั้ง ก็ล้มเหลว…
ดูเหมือนว่าโลกของเราไม่ได้อยู่ในปีที่สงบสุขเท่าไหร่ แม้ว่าโลกจะทำให้เรายากในการหาเวลาผ่อนคลาย แต่การนอนยาวๆ 8 ชั่วโมงนั้นถือว่ายังไม่เพียงพอ เชื่อเถอะว่าต้องมีหมออย่างน้อยสักหนึ่งคนที่ยืนยันว่า เราทุกคนจำเป็นต้องหาทางรีเซ็ตตัวเองและเติมพลังอยู่ดี…
มีคนนับล้านที่เคยดูวิดีโอที่ผู้หญิงกำลังกระซิบอยู่หน้ากล้อง เธอไม่ได้ทำอะไรน่าสนใจหรอก เธอก็แค่พูดเป็นทำนองกระซิบ และก็มีการเคลื่อนไหวมือนิดๆหน่อยๆ ทว่าผู้คนเป็นล้านกลับหลงใหลมัน... สำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัสกับปรากฏการณ์แบบนี้ก็อาจจะเกิดคำถามว่า.. “เค้าทำอะไรวะ?” นี่คือโลกของ ASMR (Autonomous Sensory Meridian Response)…