“If she doesn’t scare the hell out of you a little, she’s not the one.”
“ถ้าเธอไม่ได้กลัวคุณเลยแม้แต่น้อย, เธอคงไม่ใช่คนๆนั้น”
มองเผินๆ ประโยคข้างบนนี้มันอาจดูพยายามโน้มน้าวให้คุณต้องเดทกับคนที่อารมณ์ไม่มั่นคง
แต่ถ้าได้ลองนั่งคิดดูดีๆ คุณจะเห็นว่ามันมีความหมายลึกซึ้งและสำคัญกว่านั้น
มากเท่ากับที่พวกสื่อต่างๆพยายามหลอกคุณอยู่
ความสัมพันธ์ที่ดีที่สุด มันไม่ได้มีแค่แสงแดดและดอกกุหลาบเสมอไป
ความสัมพันธ์ เป็นพาหนะชั้นดีที่ทำให้เราเติบโต และประเภทของความรักที่ดีคือรักที่ท้าทายคุณ แบบที่คู่ของคุณเป็นเหมือนกระจกสะท้อนตัวตนของกันและกัน พวกเขาจะค่อยๆดึงปีศาจในตัวคุณออกมาทีละตัวด้วยความรัก พวกเขาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ให้คุณเติบโตในทางที่ดีขึ้น
พวกเขาจะเอาไฟฉายส่องเข้าไปในทุกมุมมืดในหัวของคุณ ส่องให้เห็นทุกอย่างที่คุณพยายามซ่อนไว้จากโลก และพวกเขาจะส่องมันด้วยความรัก ความอดทน และความเข้าใจ
ตอนที่คุณคิดว่าพวกเขาต้องวิ่งหนีแน่ๆ (หลังจากรู้ความลับดำมืดที่สุดของคุณ) พวกเขากลับบอกว่ารักคุณมากขึ้นเพราะได้รู้จักคุณมากขึ้น
ความใกล้ชิด คือการยอมให้ใครสักคนเห็นตัวตนจริงๆของคุณ
และมันทำให้คนส่วนใหญ่ ขวัญกระเจิง
การให้ใครสักคนรู้จักคุณจริงๆ เห็นคุณจริงๆ มันน่ากลัวชิบหาย
คุณกำลังเอาหัวใจวางลงบนมือเขาและพูดว่า “ช่วยทะนุถนอมมันหน่อย”
และถ้าเขาเป็นคนที่ใช่ เขาจะตอบกลับมา (ด้วยคำพูดหรือการกระทำ) ว่า “กูจะไม่มีวันทำร้ายมันเด็ดขาด”
ตอนที่ผมเริ่มกลับมาเดทอีกครั้ง หลังจากโดนทิ้งจนจิตใจบอบช้ำ ผมกลัวจะให้ใครเข้ามาใกล้
ผมเลยคบคนแบบผิวเผินเพราะกลัวความวิตกกังวลที่ความใกล้ชิดนำมาให้ แค่ยอมรับว่า มีวันที่แย่ ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้ว
ตอนที่ปิดกั้นตัวเอง ผมคิดว่าจะไม่มีวันเปิดใจให้ใครอีกแล้ว
จนวันนึง ผมเจอคนที่เข้ามาพลิกโลกของผมจนหงายหลัง
ดวงตาของเธอมองทะลุผมไปเลย หลบเธอไม่ได้เลยว่ะ เธอไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ผมรู้ว่าเธอมองเห็นผมทะลุปรุโปร่ง
สัญชาตญาณแรกของอีโก้ที่จะป้องกันตัวเองคือวิ่งหนี กลับไปทำเรื่องแย่ๆแบบเดิม หนีไปก่อนที่เธอจะรู้เรื่องในอดีต พลักเธอออกไปก่อนที่เธอจะเห็นว่ามึงโกหกตัวเอง หนีห่างจากเธอไว้ก่อน เผื่อเธอจะทำให้มึงรู้สึกอะไรรุนแรงๆอีก
อีโก้ของผมต่อต้านเธอทุกฝีก้าว ผมบอกตัวเองว่าเธอไม่ใช่สเปคผม พยายามหาข้ออ้างว่า “เธอเด็กไป/ไม่มีประสบการณ์/บ้านนอก/อะไรก็ตามสำหรับกู” แต่มันเป็นเรื่องขี้โม้ทั้งนั้น ทุกความคิดที่พยายามกันผมออกจากเธอมันแค่ข้ออ้างขี้ขลาดของอีโก้ที่อยากจะปิดกั้นความรู้สึก มันเป็นแค่กลไกป้องกันตัว และผมรู้ดี
เมื่อผมเริ่มเปิดใจและบอกเธอว่าผมรู้สึกยังไง เธอรับมันด้วยความเมตตาและเข้าใจ เพราะก่อนที่ผมจะพูดออกมา เธอรู้แล้ว เธอเห็นผมหมดแล้ว
ความใกล้ชิดจะน่ากลัวแค่ไหน การเอาปีศาจในตัวเราออกมาเจอแดด มันเป็นการบำบัดที่ลึกซึ้งชิบหาย ความอับอายไม่มีทางอยู่รอดในความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักและความใกล้ชิด
การเจอเธอทำให้ผมหายขาดมั้ย? เปล่า มันเป็นกระบวนการเหมือนทุกสิ่งทุกอย่าง ผมต้องหายใจเข้าลึกๆ ทุกครั้งที่ความวิตกกังวลมันมามันกระทบใจ ทุกครั้งที่ผมยอมให้เธอเห็นตัวตนมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ผมขอบคุณโชคชะตาที่ได้เจอเธอ เพราะการที่เธอทำให้ผมกลัวนั่นแหละ คือตั๋วที่พาผมไปสู่การเปลี่ยนแปลงแบบที่ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ถ้าคุณกำลังอยู่ในช่วงที่เริ่มเจอใครสักคนที่ท้าทายคุณ เผชิญหน้ากับคุณ และทำให้คุณกลัวในระดับนึง
ลองคิดดูว่าบางทีพวกเขาอาจเป็นพลังที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณไปในทางที่ดีขึ้น
อย่าไปเดทกับคนที่ทำให้คุณกลัวเพราะพวกเขาชอบควบคุม โมโห ใช้ความรุนแรง หรือทำร้ายคุณ นั่นคือความกลัวที่ห่วย และเป็นความสัมพันธ์ที่คุณไม่ควรยุ่งด้วย
แต่จงเดทกับคนที่ทำให้คุณกลัวเพราะพวกเขาสนับสนุนให้คุณเผชิญหน้ากับทุกอย่างที่คุณพยายามกดมันไว้มานาน
เดทกับคนที่ค่อยๆพยายามดันคุณออกจากพื้นที่สบายๆ และช่วยให้คุณเลเวลอัพในชีวิต
มันอาจเป็นเรื่องเจ๋งที่สุดที่คุณเคยทำเพื่อตัวเอง
ความรักที่ดีที่สุดคือความรักที่ดึงปีศาจในคุณออกมาให้หมด
By Jordon Gray