HOW TO SELF DEVELOPMENT

วิธีหยุดคิดมาก

อาการคิดมากไม่ได้แค่เป็นปัญหาของคนเซนซิทีฟจิตใจอ่อนไหว คนเราล้วนคิดมากตั้งแต่ตอนนี้ไปถึงอนาคต

เหตุที่นอนไม่หลับกันช่วงกลางคืน คนคิดมากส่วนใหญ่มักวนเวียนอยู่กับอดีต หรือไม่ก็กำลังกังวลเกี่ยวกับอนาคต

ทุกอย่างจะเป็นยังไง ถ้าฉันทำตัวเปลี่ยนไป
ทำไมเขาไม่โทรมาหา
ฉันทำอะไรผิด
ควรทำงานที่นี่ หรือควรออกไปทำตามความฝัน

ถ้าคุณเป็นคนคิดมาก คุณอาจจะมีรายการปัญหาหลายอย่างที่ยังไม่ได้แก้
และมันชอบผุดขึ้นมาตอนที่คุณไม่ค่อยนึกถึง

คุณจะเลือกวนเวียนอยู่กับความคิด หรือหยุดวนลูปนี้ แล้วลงมือทำอะไรซักอย่าง ทำอะไรบางอย่าง ทำอะไรก็ได้
ทำสิ่งเล็กๆทีละนิด เพื่อให้จิตใจคุณได้หยุดพักจากวังวนบ้าง

การคิดมาก ก็แค่เป็นตัวย้ำเตือนความเจ็บปวด ที่คุณแคร์สิ่งนั้นมากไป หรือกระทั่งไม่ได้สนใจมันเลย

คุณอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในการค้นหาคำตอบจากคนอื่น หรือใช้เวลาเหล่านั้นไปกับความฝันของตัวเอง
ทำบางอย่างที่จุดประกายความสุขเล็กๆ และให้ความสุขนั้นเป็นตัวทำลายวังวนของจิตใจ

Worrying is like paying a debt you don’t owe

-mark twain

ไม่ว่าคุณจะทำอะไร มันมีทั้งคนที่ชอบและคนที่ไม่ชอบ
ถ้าคุณรักตัวเองมากพอ คุณจะเข้าใจว่าพวกนี้ไม่มีความหมายเลยถ้าคุณใช้ชีวิตที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของคุณอยู่
แทนที่จะวิเคราะห์คำจากคนอื่น ลองมาวิเคราะห์ตัวเองดูบ้างก็ได้

ถ้ามันหนักหัวมากนัก ลองทุ่มสมองดูสักครั้งไหม
เขียนทุกสิ่งที่มันกวนใจลงในกระดาษ และให้มันหยุดกัดกินแบตเตอรี่พลังใจของคุณได้แล้ว

ปล่อยมันไป ทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลัง โลกไม่ได้จะแตกแค่เพราะคุณหยุดคิดสักหนึ่งนาที

ยอมรับความเป็นไปได้ โอบกอดความไม่แน่นอน และเชื่อในกระบวนการ

อดีตอยู่ข้างหลัง เรียนรู้มัน อยาคตอยู่ข้างหน้า เตรียมรับมัน ปัจจุบันอยู่ตรงนี้ ใช้ซะ

วิธีจัดการกับอาการคิดมาก

มีกลยุทธ์อยู่ไม่กี่อย่าง
ก่อนที่จะกังวลเกี่ยวกับการคิดมาก
คุณควรสังเกตว่าการคิดถึงบางสิ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไป บางครั้งเมื่อต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน
การเจาะลึกลงไปในสถานการณ์อาจช่วยให้คุณเห็นวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆได้

แต่เมื่อการคิดมากเกินไป จะกลายเป็นสิ่งที่ไม่เกิดผลและอาจเป็นอันตรายได้
การคิดมากอาจเป็นอาการของภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวล ในระดับหนึ่งจะสามารถกลายเป็นเสพติดได้
หากคุณพบว่าตัวเองมักคิดมากหรือกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นนี่คือเคล็ดลับอย่างในการจัดการกับการคิดมากค่ะ

เขียนมันลงไป

สิ่งหนึ่งที่ช่วยลดความเครียดและทำให้จิตใจปลอดโปร่งคือการทิ้งสมอง ในการรับมือกับการคิดมาก ให้หากระดาษแผ่นหนึ่งแล้วจดสิ่งที่รบกวนจิตใจคุณ

ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณกังวลเกี่ยวกับการสัมภาษณ์ในวันพรุ่งนี้ ให้จดบันทึกไว้ และเขียนรายการสิ่งที่ทำให้คุณไม่พอใจ

หรือบางทีคุณอาจไม่แน่ใจว่าจะตอบคำถามบางข้ออย่างไรดี เจาะจงให้มากที่สุด และจะดียิ่งขึ้นไปอีกหากคุณสามารถหาวิธีจัดการกับความกังวลของคุณได้

การทิ้งสมองคือการทิ้งความคิดของคุณลงบนกระดาษ ดังนั้นคุณไม่จำเป็นต้องพกมันไว้ในใจ

ลงมือทำ

การกระทำเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการหยุดคิดมาก บางครั้งเราคิดมากเพราะไม่คิดว่าเราจะรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นต่อไปได้ เมื่อฝึกฝนให้สมบูรณ์แบบ การเตรียมตัวที่ดีขึ้นจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ

สมมติว่าคุณมีการประชุมที่สำคัญกับลูกค้าในสัปดาห์หน้า และคุณไม่สามารถหยุดคิดถึงสิ่งที่อาจผิดพลาดได้ แทนที่จะกังวลและไม่ทำอะไรเลย คุณสามารถพูดคุยกับหัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานได้ และดูว่าพวกเขามีข้อเสนอแนะใด ๆ หรือคุณสามารถร่างประเด็นสำคัญของการประชุม ส่งอีเมลถึงลูกค้าล่วงหน้า และดูว่าพวกเขามีอะไรอีกไหมที่พวกเขาต้องการทราบ

การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้อาจไม่สามารถแก้ปัญหาของคุณได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่พวกเขาเปลี่ยนความคิดของคุณจากความกังวลไปสู่การหาทางแก้ไขและช่วยจัดการกับการคิดมาก

5-4-3-2-1

เรามักจะคิดมากเมื่อมีเรื่องต้องกังวลในอนาคตหรือสิ่งที่เราเสียใจในอดีต การเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบันทำให้คุณไม่ต้องครุ่นคิด วิธีการรับมือแบบ 5-4-3-2-1 เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมทีเดียวค่ะ

และนี่คือกระบวนการ เมื่อคุณรู้สึกว่าตัวเองคิดมาก ให้เริ่มนับ

ห้าสิ่งที่คุณเห็น

สี่สิ่งที่คุณสัมผัสได้

สามสิ่งที่คุณได้ยิน

สองสิ่งที่คุณได้กลิ่น

และสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถลิ้มรสได้

การฝึกนี้จะช่วยหยุดจิตใจที่ว้าวุ่นของคุณและเปลี่ยนความสนใจของคุณให้อยู่กับช่วงเวลาปัจจุบัน

เรียนรู้จากอดีต ไม่จมปลักอยู่กับมัน

บางครั้งอดีตคือสิ่งที่ทำให้คุณคิดมาก “แล้วถ้าฉันไม่ทำพลาดล่ะ” “ถ้าฉันรับข้อเสนองานอื่นแทนล่ะ” “ฉันโง่ขนาดที่ไม่เห็นว่าเขากำลังโกหกอยู่”

หากคำถามเหล่านี้ทำให้คุณตื่นกลางดึก แสดงว่าคุณยังไม่ได้ก้าวต่อจากอดีต ดังนั้น เพื่อละทิ้งความรู้สึกผิด ความโกรธ หรือความสับสน และเพื่อจัดการกับการคิดมาก ให้ถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ หนึ่งคำถามว่า “ฉันจะเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง”

มีบทเรียนให้เราเรียนรู้เบื้องหลังทุกสิ่ง ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษจะบอกวิธีดูคนหลงตัวเองหรือคนเฟคให้เรารู้ ความล้มเหลวในการเปิดธุรกิจบอกคุณถึงวิธีเตรียมตัวให้พร้อมในครั้งต่อไป อดีตเป็นตัวกำหนดว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป แต่มันไม่จำเป็นต้องหยุดเราจากการใช้ชีวิตที่ดีที่สุด

0 0 votes
Article Rating
See also  ASMR | ทำไมคนเป็นล้านถึงชอบดูวิดีโอที่มีคนกำลังกระซิบ

You Might Also Like

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x