ช่วงนี้ใครที่สั่งหนังสือจากต่างประเทศอย่าง Book Depository จะเห็นว่าจะมีการแจ้งเตือนที่หน้าเว็บว่าอาจจะมีการจัดส่งล่าช้าในบางประเทศเพราะเนื่องมาจากสถานการณ์ของไวรัสโคโรน่า แต่สำหรับใครที่ไม่ได้รีบร้อนอะไรก็ไม่น่าจะมีปัญหาค่ะ อ่านเล่มอื่นไปพลางๆระหว่างรอ
วันนี้เราจะมาแนะนำหนังสือในหมวดเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ซึ่งเป็น Best Seller ของเว็บไซต์
#1 Lost Connections
By Johann Hari
ทำไมคนเราถึงซึมเศร้า และทำยังไงถึงจะพบความหวัง
ในปัจจุบัน ความหดหู่ ซึมเศร้า ความวิตกกังวล ได้เกิดขึ้นกันเหมือนโรคระบาด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้เปิดเผยหลักฐานที่แตกต่างกันทั้งหมด 9 สาเหตุ
บางอย่างมันอาจเกิดจากภายในร่างกายของเรา แต่ส่วนใหญ่แล้วอยู่ที่วิธีการดำเนินชีวิตประจำวันของเรากันมากกว่า
ในหนังสือ Lost Connections ได้แสดงถึงความคิดรูปแบบใหม่เกี่ยวกับวิกฤตการณ์เหล่านี้ และแสดงให้เห็นว่าเมื่อเราเข้าใจถึงต้นตอสาเหตุที่แท้จริงแล้ว เราสามารถเริ่มที่จะหันไปสู่วิธีการใหม่ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ให้ความหวังกับเราอย่างแท้จริง
เวอร์ชั่นแปลภาษาไทยชื่อหนังสือว่า โลกซึมเศร้า
#2 Limitless
By Jim Kwik
อัพเกรดสมอง เรียนรู้ให้ไว และปลดล็อคชีวิตอันไร้ขีดจำกัด
ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา จิม ควิค ได้ช่วยทุกคนทั้งแต่เหล่าเซเลบริตี้คนดัง ไปถึง ซีอีโอ ไปจนถึงนักเรียนนักศึกษาทั้งหลาย ในการพัฒนาความจำ เพิ่มทักษะในการตัดสินใจ เรียนรู้ที่จะอ่านอย่างรวดเร็ว และปลดปล่อยศักยภาพพิเศษของพวกเขา
ในหนังสือ Limitless ผู้อ่านจะได้เรียนรู้กลยุทธ์ของจิมและทางลัดในการแหกกฏเพื่อหลุดพ้นข้อจำกัดต่างๆที่มี คุณจะได้เรียนรู้วิธีเพิ่มพลังสมองด้วยวิธีง่ายๆ เครื่องมือที่ใช้งานได้จริงในการลับจิตใจให้เฉียบคม เพิ่มการโฟกัส จดจ่อ และทางลัดแบบ fast-track ไปสู่ศักยภาพสูงสุดของตัวเอง
หนังสือเล่มนี้ได้แบ่งออกเป็นสี่ส่วน ได้แก่ Mindset, Motivation, Meta-Learning และ Mission คุณจะได้พบกับตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับไอคิว ความสามารถ และชุดทักษะ
เข้าใจว่าทำไมการเรียนรู้จึงมีความสำคัญ
เรียนรู้นิสัยหลักและขั้นตอนก้าวสู่การเป็นคนไร้ขีดจำกัด
และสำรวจว่าพวกเขาสามารถรับใช้โลกได้อย่างไร
นอกจากนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธีพิชิตสี่ศัตรูตัวฉกาจ ได้แก่ Distraction , Digital Dementia, Digital Deluge และ Depression
การที่เชื่อว่าตัวคุณเอง ’มีข้อจำกัด’ นั้นเป็นการฉุดรั้งคุณให้ออกห่างจากการบรรลุเป้าหมายความฝันอันสูงสุดของคุณ แต่เราทุกคนมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่ภายใน และกุญแจในการปลดล็อคพลังอันยิ่งใหญ่นี้คือ “การไม่จำกัดตัวคุณเอง”
#3 How to Create a Mind
By Ray Kurzweil
ความลับของความคิดมนุษย์ได้ถูกเปิดเผย
ในหนังสือ How to Create a Mind เรย์ เคิร์ซเวล ได้นำเสนอโครงการสำรวจที่สำคัญเกี่ยวกับอารยธรรมในจักรกลมนุษย์
การใช้วิศวกรรมย้อนกลับ เพื่อให้เข้าใจสมองอย่างถ่องแท้ว่ามันทำงานอย่างไร และใช้ความรู้เหล่านั้นเพื่อสร้างจักรกลที่มีความชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น
เคิร์ซเวล สำรวจว่าสมองทำงานอย่างไร จิตใจเกิดจากสมองได้อย่างไร และผลกระทบในการเพิ่มพลังอย่างมหาศาลให้กับเจ้าความฉลาดนี้ ไปสู่การระบุปัญหาของโลกของเรา
เขาพิจารณาความฉลาดทางอารมณ์และความฉลาดทางศีลธรรมและต้นกำเนิดของสติสัมปชัญญะอย่างรอบคอบและจินตนาการถึงความรุนแรงซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคตของการผสานรวมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะที่เรากำลังสร้างขึ้น
#4 Deep Thinking
By Garry Kasparov
เมื่อความฉลาดของจักรกลสิ้นสุดลง เมื่อนั้นความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้อุบัติขึ้น
ในเดือนพฤษภาคมปีค.ศ. 1997 ทั่วโลกได้จับตามองขณะที่แกร์รี คาสปารอฟ นักหมากรุกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกพ่ายแพ้ต่อซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็มเป็นครั้งแรก มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของเทคโนโลยี: เมื่อความฉลาดของจักรกลมาถึงจุดที่ มันสามารถใช้สติปัญญาได้ยอดเยี่ยมกว่ามนุษย์
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คาสปารอฟได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ระหว่างเครื่องจักรกลกับมนุษย์ หมากรุกเป็นแกนหลักในการพัฒนาความฉลาดของเครื่องจักรมานานแล้ว ‘The Turk’ หุ่นยนต์เล่นหมากรุก ในศตวรรษที่ 18 และโปรแกรมหมากรุกครั้งแรกของ อลัน ทัวริ่ง ในปีค. ศ. 1952 เป็นสองตัวอย่างแรกของการแสวงหาเครื่องจักรให้คิดเหมือนมนุษย์ซึ่งเป็นความสามารถที่เราวัดได้จากความสามารถในการเอาชนะผู้สร้างของตนด้วยการเล่นหมากรุก
ในฐานะปรมาจารย์หมากรุกที่มีชื่อเสียงในยุค 80 และ 90 ถือเป็นพรของคาสปารอฟและคำสาปของเขาที่ต้องเล่นกับแชมป์คอมพิวเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในแต่ละรุ่นซึ่งมีส่วนให้พวกเขาพัฒนาและก้าวหน้าขึ้นในสนามแข่งขัน
เช่นเดียวกับคู่ต่อสู้ที่มีความหลงใหล คาสปารอฟน้อมรับความพ่ายแพ้และเรียนรู้จากมัน เขาทุ่มเทพลังอย่างมากในการคิดค้นวิธีที่มนุษย์สามารถเป็นพันธมิตรกับจักรกล
เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดี มากกว่าที่จะได้แต่เพียงฝ่ายเดียว
ในช่วง 20 ปีตั้งแต่เล่น Deep Blue เขาเล่นทั้งกับหุ่นยนต์จักรกล และเรียนรู้มากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่สำคัญของพวกเรา ในที่สุดเขาก็เชื่อมั่นโดยให้การยอมรับการแข่งขันระหว่างความฉลาดของมนุษย์และเครื่องจักร เราสามารถใช้เวลาน้อยลงในการกังวลเกี่ยวกับการถูกเข้ามาแทนที่และคิดถึงความท้าทายใหม่ ๆ ที่จะพิชิตมากขึ้น
ในหนังสือสุดล้ำเล่มนี้คาสปารอฟได้บอกเล่าเรื่องราวของ Deep Blue เป็นครั้งแรก ซึ่งคล้ายกับเป็นการวางกลยุทธ์กับคู่ต่อสู้ที่ไม่ยอมใครง่ายๆและไม่ย่อท้อ
ความผิดพลาดที่เขาทำและเหตุผลที่ทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาส ยิ่งไปกว่านั้นเขาได้ เล่าเรื่องราวของ AI ในแบบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และวิธีการที่เขาพัฒนาตนเองเพื่อยอมรับมันโดยมีส่วนร่วมในการถกเถียงเร่งด่วนกับนักปรัชญาที่กังวลเกี่ยวกับคุณค่าของมนุษย์, โปรแกรมเมอร์ที่สร้างเครือข่ายประสาทการเรียนรู้ด้วยตนเอง และวิศวกรหุ่นยนต์ล้ำสมัย
#5 Weapons of Math Destruction
By Cathy O’neil
Big Data ก่อความเหลื่อมล้ำและคุกคามประชาธิปไตยได้อย่างไร
ในหนังสือขายดีของ New York Times เล่มนี้ เคธี่ โอนีล หนึ่งในผู้สนับสนุนเรื่องการรับผิดชอบอัลกอริธึม ได้ส่งสัญญาณเตือนเกี่ยวกับแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่แผ่ขยายออกไปสู่ในชีวิตสมัยใหม่ และขู่ว่ามันจะฉีกองค์ประกอบทางสังคมของเราให้แยกออกจากกัน
เราอยู่ในยุคของอัลกอริทึม ที่การเพิ่มขึ้นของการตัดสินใจหลายๆอย่างมีผลต่อชีวิตของเรา
ไม่ว่าเราจะเรียนที่โรงเรียนไหน ได้รับเงินกู้หรือไม่ เราต้องจ่ายค่าประกันเท่าไร
เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยมนุษย์ แต่กลับเป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ตามทฤษฎีแล้วสิ่งนี้ควรนำไปสู่ความเป็นธรรมมากขึ้น ทุกคนควรถูกตัดสินตามกฎเกณฑ์เดียวกันและความลำเอียงควรจะถูกกำจัดออกไป
แต่ที่ เคธี่ โอนีล เปิดเผยในหนังสือด้วยความจำเป็นและเร่งด่วนนี้ สิ่งที่ตรงกันข้ามที่กล่าวมาเป็นความจริง แบบจำลองที่ใช้กันในปัจจุบันนั้นขุ่นมัว ไม่มีการควบคุม และไม่สามารถโต้แย้งได้แม้ว่ามันจะผิดพลาดก็ตาม ที่น่าหนักใจที่สุดคือพวกเขาตอกย้ำด้วยการเลือกปฏิบัติ
การติดตามรูปแบบของชีวิตคนๆหนึ่ง โอนีลได้อธิบายโมเดลกล่องดำที่กำหนดอนาคตพวกเราได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบปัจเจกบุคคลหรือสังคม อาวุธทำลายล้างทางคณิตศาสตร์เหล่านี้ ให้คะแนนครูและนักเรียน, ค้นหาใบสมัครงาน, อนุญาตหรือปฏิเสธเงินกู้, ประเมินคนงาน, กำหนดเป้าหมายผู้ลงคะแนน, และเฝ้าดูสุขภาพของเรา
โอนีลเรียกร้องให้นักสร้างแบบจำลองออกมารับผิดชอบมากขึ้นสำหรับอัลกอริทึมของพวกเขา และกำหนดนโยบายเพื่อควบคุมการใช้งาน แต่ท้ายสุดแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับแบบจำลองที่ควบคุมชีวิตของเรา หนังสือสำคัญเล่มนี้ช่วยให้เราสามารถถามคำถามที่ยาก ๆ เปิดเผยความจริง และเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงได้
ใครที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการตีแผ่ AI อัลกอริทึมการตรวจจับใบหน้า face recognition ลองไปหาดูหนังสารคดีของเน็ตฟลิกซ์ เรื่อง Coded Bias ชื่อไทย รหัสอคติ