ถ้าจะควบคุมชีวิตตัวเอง ให้ควบคุมสิ่งที่ตัวเองสนใจ
หนึ่งในข้อมูลเชิงลึกที่ดีที่สุดเกี่ยวกับความหมายที่แท้จริงของประสิทธิผล [ Productivity ]ในช่วงศตวรรษที่ 21 ย้อนไปถึงทศวรรศที่ 1890 ในหนังสือ The Principles of Psychology, Vol.1 ของ William James ได้เขียนไว้ซึ่งประโยคสั้นๆประโยคหนึ่งแต่แฝงไปด้วยความหมาย : “ประสบการณ์ของผมนั้นคือสิ่งที่ผมพึงยินยอมที่จะเข้าร่วม”
สิ่งต่างๆที่คุณให้ความสนใจ นั้นแสดงถึงประสบการณ์ต่างๆที่คุณมี
และประสบการณ์ต่างๆของคุณ ก็แสดงถึงวิถีชีวิตที่คุณอยู่
หรือพูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า
คุณต้องควบคุมความสนใจของตัวเอง เพื่อที่จะควบคุมชีวิตตัวเองได้
[ you must control your attention to control your life …]
ทุกวันนี้ในโลกที่เต็มไปด้วยประสบการณ์มากมายผสมผสานกันอยู่ – เราสามารถนั่งทำงานได้จากที่บ้านได้ (หรือบนรถไฟ บนเครื่องบิน แม้แต่ริมชายหาด) จับตาดูพี่เลี้ยงเวลาดูลูกๆของเราด้วยกล้องจากที่ทำงาน และ มีสิ่งที่ทำให้เราไขว้เขวได้อยู่ตลอดแค่รูดนิ้วโป้ง ทั้งหมดนี้ก็เคยเป็นกันใช่ไหมล่ะ
การจัดการความสนใจ [ Attention Management ]
ในการที่จะทำให้มีการเกิดประสิทธิผลอย่างต่อเนื่องและจัดการกับความเครียดได้ดีขึ้น เราต้องทำให้ทักษะของเราแข็งแกร่งขึ้นด้วยการจัดการความสนใจ
การจัดการความสนใจก็คือการฝึกฝนในเรื่องการควบคุมสิ่งรบกวนต่างๆ จดจ่อกับปัจจุบันขณะ ค้นหาความลื่นไหล และเพิ่มการโฟกัส เพื่อให้คุณสามารถปลดปล่อยความเป็นอัจฉริยะของคุณได้ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้เจตนาแทนที่จะเป็นปฏิกิริยา มันคือความสามารถในการนึกขึ้นมาได้เมื่อความสนใจของคุณถูกขโมยไป การให้ความสนใจกับกิจกรรมที่คุณเลือกมากกกว่าการยอมให้สิ่งรบกวนมาทำให้คุณสะดุด คุณควรยึดตามความเข้าใจในลำดับความสำคัญและเป้าหมายของคุณ
การจัดการความสนใจที่ดีขึ้นนำมาซึ่งประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้น และมันเป็นมากกว่าการเช็คลิสต์รายการสิ่งที่ต้องทำ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดคือความสามารถในการสร้างชีวิตที่คุณเลือกได้ สิ่งรอบๆตัวที่สำคัญสำหรับคุณ
มันเป็นมากกว่าการฝึกการโฟกัส มันเกี่ยวข้องกับการควบคุมเวลาและจัดลำดับความสำคัญของคุณ
แรงบันดาลใจ VS ประสบการณ์
พวกผู้นำส่วนใหญ่ที่ผมได้ร่วมงานด้วยบอกไว้ว่า “ผมเชื่อมั่นในพลังของการเป็นที่ปรึกษาและฝึกฝนให้กับสมาชิกในทีม สิ่งสำคัญที่สุดที่ผู้นำอย่างผมสามารถทำได้คือการสนับสนุน ส่งเสริมการเติบโตของพวกเขา นี่คือสิ่งที่ผมได้สร้างความแตกต่าง และมันส่งผลให้ผมพอใจกับงาน”
ทว่าหลังจากจบบทสนทนา ผมก็ได้ยินมาว่าวันๆของพวกเขานั้นจริงๆแล้วเป็นไปอย่างไร : “ผมใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับอีเมลและการดับเพลิง ผมเริ่มต้นปีด้วยแผนการโค้ชให้กับทีมของผม แต่แผนนั้นค่อยๆจบลงตามท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่างที่กำลังเกิดขึ้น
แม้คุณจะเห็นว่าตัวเองเป็นผู้สนับสนุนอย่างมากสำหรับการสอนและให้คำปรึกษา คุณจะไม่มีผลกระทบที่คุณต้องการหากการกระทำและประสบการณ์ของคุณไม่ได้สะท้อนถึงค่าเหล่านี้ ดังที่เจมส์กล่าวว่าประสบการณ์ของคุณคือสิ่งที่คุณสนใจ และประสบการณ์ของคุณกลายเป็นชีวิตของคุณ ดังนั้นหากความสนใจของคุณถูกเบี่ยงเบนไปที่ความสนใจเรื่องอื่นๆ อีเมล การประชุม และ “การดับเพลิง” ก็จะกินวันของคุณไป กลายเป็นสัปดาห์ๆหรือหลายเดือนจะหายไปและชีวิตของคุณจะเต็มไปด้วย “ประสบการณ์” ที่คุณไม่เคยหวังไว้จริงๆ
งั้นทำไมเราถึงไม่ได้มีประสบการณ์ที่เราต้องการ และสร้างชีวิตที่เราต้องการมากที่สุดล่ะ?
เหตุใดความเจ็บปวดนี้ถึงปรากฏขึ้นระหว่างตัวเราเองแบบที่เราคาดหวังกับวิธีที่เราใช้เวลาของเราล่ะ?
จริงๆแล้วที่เจมส์กำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในศตวรรษที่ 19th นั้น แสดงให้เห็นว่าพวกเราได้ต่อสู้กับความขัดแย้งระหว่างเป้าหมาย ค่านิยมของเราและสิ่งล่อลวงความสนใจมาเป็นเวลานาน และแน่นอนว่าเรานั้นอาศัยอยู่บนโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งรบกวนมาตั้งแต่ก่อนปีค.ศ.1890 ซะอีก ตอนที่เจมส์ได้ตีพิมพ์หนังสือ The Principles of Psychology ก็เพิ่งจะมีการใช้โทรศัพท์บ้านในยุคนั้น ปัจจุบันนี้เรามีอินเทอร์เน็ทที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์และอุปกรณ์อื่นๆที่มักติดตัวอยู่กับเรา การส่งข้อมูลและการติดต่อสื่อสารอันมหาศาล ที่เจมส์ไม่อาจจินตนาการได้ มันมีสิ่งมากมายที่กำลังแข่งขันกันเพื่อดึงความสนใจจากพวกเรา
กลับมาดูที่ตัวอย่างการให้คำปรึกษาและการฝึกฝน ในแต่ละวันคุณสามารถเริ่มต้นมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมของคุณ แต่ความตั้งใจเหล่านั้นกลับมอดไหม้ไปได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร่งรีบของความต้องการที่เป็นตัวกำหนดวันทำงานของเรา
ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้าคลั่งนี้ การบรรลุสิ่งต่างๆที่มีความหมายที่สุดสำหรับคุณก็ไม่ได้เกิดขึ้น
คุณไม่สามารถหลีกหนีมันออกมาเพื่อให้มีโอกาส สภาพแวดล้อมที่วุ่นวายของคุณนำเสนอทางเลือกแล้วทางเลือกอีกในทุกวันเกี่ยวกับสิ่งที่คุณใส่ใจ แล้วประสบการณ์ของคุณจะเป็นอย่างไร
ตั้งใจเลือกสิ่งที่คุณสนใจ
คือสิ่งที่การจัดการความสนใจนำเสนอเป็นทางออก มันเป็นวิธีที่มุ่งให้คุณกลับมาอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ การฝึกการจัดการความสนใจหมายถึงการต่อสู้กับการรบกวนและสร้างโอกาสต่างๆตลอดวันเพื่อสนับสนุนการจัดลำดับความสำคัญของคุณ โดยขั้นแรกให้ควบคุมที่ปัจจัยภายนอก
ควบคุมเทคโนโลยีของคุณซะ
จงจำไว้ว่า มันมีไว้คอยเสริฟคุณ ไม่ใช่ทางอื่น! จงตัดสินใจที่จะควบคุมโดยการปิดอีเมลและการแจ้งเตือน ซึ่งมันออกแบบมาเพื่อขโมยความสนใจไปจากคุณ วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีส่วนร่วมในการทำงานโฟกัสกับงานและกิจกรรมที่คุณเลือกมากขึ้น เป็นไปได้ให้ปิดเสียงโทรศัพท์หรือวางไว้ไกลสายตาในขณะที่คุณกำลังทำงานอยู่ให้เป็นประจำ
ควบคุมสภาพแวดล้อมของคุณ
กำหนดขอบเขตกับผู้อื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในออฟฟิศแบบเปิด ตัวอย่างเช่นใช้หูฟังหรือติดป้าย “อย่ารบกวน” เมื่อคุณต้องการโฟกัส หากไม่ได้ผลให้ลองไปที่ส่วนอื่นของออฟฟิศหรือแม้แต่อีกชั้นหนึ่งในอาคารของคุณ หากมันแย่จริงๆคุณลองร่วมกับเพื่อนร่วมงานกำหนดช่วงเวลาในแต่ละวันหรือวันในสัปดาห์ให้เป็นวันที่ “ไม่มีการรบกวน” สำหรับทุกคนในการก้มหน้าก้มตาทำงาน
แต่นี่คือความจริงที่มองไม่เห็น: ผลผลิตการทำงานของเราไม่เพียงต้องเจอกับการถูกรบกวนจากภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะสมองของเราเองซึ่งถูกทำให้ยุ่งเหยิงโดยสถานที่ทำงานในปัจจุบันกลายเป็นแหล่งที่ทำให้เราไขว้เขวในตัวเอง
ตัวอย่างเช่น ปัญหาไม่ใช่แค่ว่าอีเมลมาขัดจังหวะงานของคุณ มันยังมีความจริงที่ว่าการถูกผูกติดอยู่กับกล่องจดหมายอีเมลของคุณทำให้คุณคาดหวังว่าจะมีการถูกขัดจังหวะทุกๆไม่กี่นาที ที่ทำให้คุณหลุดความสนใจไป จากนั้นคุณก็กลัวที่จะลืมทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการส่งอีเมลหรือส่งต่อเอกสารซึ่งคุณจะเริ่มทำทุกอย่างทันทีที่คิด แต่ท้ายที่สุดคุณก็โดนดูดเข้าไปในกล่องจดหมายที่เอ่อล้นก่อนที่คุณจะรู้ตัว
นอกจากนี้ การที่รู้ว่าคุณมีแคตาล็อกความรู้ทั้งหมดของโลกอยู่ที่ปลายนิ้ว ในแง่ของอินเทอร์เน็ตบนสมาร์ทโฟน ทำให้มันยากที่คุณจะรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ในสถานะที่ว่า “ฉันไม่รู้” และยากที่จะหลีกเลี่ยงการเสียสมาธิเพื่อ “หาเดี๋ยวนี้”
ดังนั้นคุณต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมปัจจัยภายในหลายๆสิ่งด้วย
ควบคุมพฤติกรรมตัวเอง
ใช้เวลาเหล่านั้นเมื่อเทคโนโลยีของคุณปิดไว้และใช้ป้ายห้ามรบกวนของคุณกับงานๆเดียวด้วย: เปิดเพียงหน้าต่างเดียวบนหน้าจอคอมพิวเตอร์และให้ความสำคัญกับงานทั้งหมดจนกว่าจะเสร็จสมบูรณ์หรือจนกว่าจะถึงเวลาในจุดหยุดที่กำหนดไว้ หยุดพักระหว่างวันให้คุณออกห่างจากคอมพิวเตอร์ พยายาม “ถอดปลั๊ก” ออกอย่างสมบูรณ์ (ไม่มีเทคโนโลยี) เป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงหรือมากกว่า ให้บ่อยเท่าที่จะทำได้ หรือลองใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีในตอนแรก แล้วค่อยขยับเป็นหนึ่งชั่วโมงหรือ 90 นาที
ควบคุมความคิดตัวเอง
สำหรับพวกเราหลายๆคนนี่ก็เปรียบเหมือนกับถั่วที่เทาะออกยาก ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมทิ้งมันไว้ท้ายสุด จิตใจทำมาเพื่อซวนเซ ดังนั้นฝึกสังเกตเมื่อใจของคุณกำลังหลุดออกไปจากทิศทางของตัวเองและค่อยๆนำการโฟกัสของคุณกลับไปยังตำแหน่งที่คุณต้องการ ถ้าคุณคิดว่างานขนาดเล็กสำคัญในขณะที่คุณกำลังโฟกัสงานหลัก ให้จดลงบนแผ่นจดบันทึกและย้อนกลับไปทำในภายหลัง และทำเช่นเดียวกันกับข้อมูลที่คุณต้องการค้นหาออนไลน์
การฝึกการจัดการความสนใจจะไม่ช่วยขจัดสิ่งรบกวนออกจากวันของคุณ แต่ทว่าเมื่อใดที่คุณเริ่มรู้สึกตัวว่ากำลังวอกแวก และได้สร้าง “กล้ามเนื้อความใส่ใจ” ขึ้นมาผ่านนิสัยอย่างที่กล่าวมาแล้ว คุณจะเริ่มฟื้นชีวิตของคุณและอุทิศตัวเองให้กับสิ่งที่มีความสำคัญกับคุณจริงๆ อย่าให้ความว้าวุ่นใจทำให้แรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของคุณลดลงซะล่ะ ด้วยเหตุนี้ จงควบคุมความสนใจของคุณ เพื่อคุณจะได้ควบคุมชีวิตของคุณเอง
อ้างอิงจาก : https://hbr.org/2018/03/to-control-your-life-control-what-you-pay-attention-to